โครงการจิตอาสาเพื่อการพัฒนาลำน้ำกับชีวิต

บนวิถีแห่งความพอเพียง เพื่อประโยชน์และความสุขของประชาชน

วัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขและประเทศมีความมั่นคงโดยมีพื้นที่เป้าหมายในการดำเนินงานเป็นพื้นที่ชุมชนลำน้ำทั้งประเทศ ดำเนินโครงการโดยบูรณาการระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการดำเนินโครงการจิตอาสาเพื่อการพัฒนาลำน้ำกับชีวิต บนวิถีแห่งความพอเพียง เพื่อประโยชน์และความสุขของประชาชน ทั้งในการใช้พื้นที่ เครื่องมืออุปกรณ์ องค์ความรู้ต่างๆ ร่วมกันช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ รวมทั้งสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนและประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการ

สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยคณะอนุกรรมการสนับสนุนนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาชุมชนดำเนินการขับเคลื่อนโครงการจิตอาสาเพื่อการพัฒนาลำน้ำกับชีวิต บนวิถีแห่งความพอเพียง เพื่อประโยชน์และความสุขของประชาชนด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาชุมชนริมลำน้ำ โดยการสนับสนุนการดำเนินงานของชุมชน เช่น การแปรรูปผักตบชวา วัชพืช ขยะ มาใช้ประโยชน์ในชุมชนและเป็นผลิตภัณฑ์จำหน่ายเพื่อก่อให้เกิดรายได้แก่ชุมชน รวมทั้งกำหนดแนวทางการสนับสนุน เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของชุมชนเป็นศูนย์เรียนรู้ฐานเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยองค์ความรู้/เทคโนโลยี/นวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับลำน้ำพร้อมนำไปสู่การใช้ประโยชน์ภายในศูนย์การเรียนรู้ฐานเศรษฐกิจพอเพียง และพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดำเนินชีวิตภายใต้เศรษฐกิจพอเพียง และชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาลำน้ำ การคัดกรององค์ความรู้ด้านวิจัยและนวัตกรรมที่มีความพร้อมในการนำเข้าคลังความรู้งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาลำน้ำ รวมทั้งการพัฒนาระบบคลังความรู้งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาลำน้ำ

คลังความรู้งานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาลำน้ำ เป็นการเชื่อมโยงข้อมูลองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม รวมทั้งภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับลำน้ำ ไว้บนเว็บไซต์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์


คณะอนุกรรมการสนับสนุนนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาชุมชน

  1. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) กำหนดแนวทาง และวิธีขับเคลื่อนโครงการจิตอาสา
    เพื่อการพัฒนาลำน้ำกับชีวิต บนวิถีแห่งความพอเพียง เพื่อประโยชน์และความสุขของประชาชน
    ให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์และกรอบแนวทางการดำเนินโครงการที่กำหนดไว้
  2. สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ขับเคลื่อนการทำงานของคณะอนุกรรมการสนับสนุนนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาชุมชน สร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของชุมชนเป็นศูนย์การเรียนรู้
    ด้านการพัฒนา วิจัย และนวัตกรรมเพื่อชุมชนริมน้ำ บนวิถีแห่งความพอเพียง รวมถึงจัดทำคลังความรู้งานวิจัยและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับลำน้ำ
  3. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สนับสนุนนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ในการกำจัดผักตบชวาและแก้ไขปัญหาลำน้ำ เช่น เรือกำจัดผักตบชวาแบบอัดก้อน เรือกำจัดขยะแบบสายพานลำเลียง เรือลอกตะกอนแบบตีกวนและดูดกลับ (เรือดูดเลน) เครื่องกลเติมอากาศแบบทุ่นลอยใต้น้ำโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และเรือโกยขยะหนักเพื่อเสริมการทำงานของเรือดูดเลน
  4. หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) ดำเนินการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชน ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาผักตบชวา เช่น การใช้เรือเก็บผักตบชวา/วัชพืช/ขยะ
  5. กรมชลประทาน (ชป.) ดำเนินการบริหารจัดการลำน้ำอย่างบูรณาการ พัฒนาแหล่งน้ำและเพิ่มพื้นที่ชลประทานตามศักยภาพของลุ่มน้ำให้เกิดความสมดุล เช่น การใช้ชีววิธีในการควบคุมผักตบชวา
    การพัฒนาแหล่งต้นน้ำ และการสร้างฝายมีชีวิต
  6. กรมพัฒนาที่ดิน (พด.) ดำเนินการวิจัย และพัฒนาการอนุรักษ์ดินและน้ำ การผลิตและใช้เทคโนโลยี ชีวภาพในการแปรรูปผักตบชวา เช่น การผลิตปุ๋ยหมัก และปุ๋ยอัดเม็ด รวมถึงวางแนวทางการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ปลูกสวนป่าปอดของชุมชน
  7. กรมวิชาการเกษตร (กวก.) ดำเนินการวิจัยและสนับสนุนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีการผลิตพืช และแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อถ่ายทอดสู่กลุ่มเป้าหมายแล้วพัฒนาเป็นอาชีพ เช่น การผลิตพืชผักปลอดภัย การแปรรูปสินค้าเกษตร และการนำผักตบชวามาประยุกต์ใช้ในชุมชน
  8. กรมทรัพยากรน้ำ (ทน.) ดำเนินการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งอนุรักษ์ ฟื้นฟู เพิ่มประสิทธิภาพ และรักษาระบบนิเวศของแหล่งน้ำ
  9. กรมการปกครอง (ปค.) ส่งเสริม สนับสนุน และกำกับดูแลการบริหารการปกครองท้องที่ ในด้านการดูแลบำรุงรักษาทางน้ำ และสิ่งแวดล้อม
  10. 10.กรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ส่งเสริมและสนับสนุนการอบรมและถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อพัฒนาอาชีพ รวมถึงสนับสนุนการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของชุมชนและโครงการจิตอาสาพัฒนาลำน้ำ
  11. กรมโยธาธิการและผังเมือง (ยผ.) ออกแบบรูปแบบอาคารโรงงานหรือศูนย์การเรียนรู้ เพื่อเป็นแหล่งในการนำผักตบชวาหรือวัชพืชมาแปรรูปเพื่อใช้ประโยชน์ในครัวเรือน และสร้างรายได้ให้กับประชาชน
  12. 12.กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) สนับสนุน ช่วยเหลือ และให้คำปรึกษากับชุมชนในการดำเนินโครงการจิตอาสาพัฒนาลำน้ำ
  13. 13.สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ศึกษาวิจัย พัฒนา ออกแบบ ถ่ายทอดไปสู่การใช้ประโยชน์ โดยการแปรรูปผักตบชวาที่มีคุณภาพ เช่น โครงการแปรรูปผักตบชวาเป็นดินดำจากชีวมวล และโครงการการผลิตก๊าซชีวภาพพลังงานเพื่อชุมชน
  14. 14.สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย (.สจ..) ศูนย์กลางประสานงานให้เกิดความร่วมมือระหว่างชุมชน ปรึกษาหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับชุมชน รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการโครงการตามแผนงานการแก้ไขปัญหาลำน้ำ
  15. 15.สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย (...) ส่งเสริม สนับสนุน ช่วยเหลือ และให้คำปรึกษากับชุมชนในการดำเนินโครงการจิตอาสาพัฒนาลำน้ำ
  16. 16.สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย (สอบต.) ส่งเสริม สนับสนุน ช่วยเหลือ และ
    ให้คำปรึกษากับชุมชนในการดำเนินโครงการจิตอาสาพัฒนาลำน้ำ